www.12kick.com
Menu

อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านร้องสื่อ ถูกสวมบัตรประชาชน ไปติดคุก ถูกตัดสิทธิทุกอย่าง

อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านร้องสื่อ ถูกสวมบัตรประชาชน ไปติดคุก ถูกตัดสิทธิทุกอย่าง
อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านร้องสื่อ ถูกสวมบัตรประชาชน ไปติดคุก ถูกตัดสิทธิทุกอย่าง

เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนายคมสันต์ ทิศกระโทก อายุ 41 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านลำเพียก หมู่ที่ 11 อยู่บ้านเลขที่ 20 อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ว่า ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากมีการตรวจสอบพบว่า ชื่อ-นามสกุล และเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก นั้นไปตรงกับผู้ต้องขังอยู่ในเรือนจำแห่งหนึ่งที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งแม้ว่าจะได้ทำการติดต่อสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งทางอำเภอ ตำรวจ รวมไปถึงกรมราชทัณฑ์ แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบว่าจะต้องดำเนินการแก้ไขหรือดำเนินการอย่างไร แม้ว่าเวลาจะล่วงเลยผ่านมานานหลายปีแล้วก็ตาม

โดยนายคมสันต์ ทิศกระโทก เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ตัวเองดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 และเพิ่งลงจากตำแหน่งตามวาระเมื่อปี พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ก็มีการตรวจเช็กประวัติทุกอย่างเป็นปกติดี ดำรงตำแหน่งได้ไม่มีปัญหา แต่เมื่อประมาณกลางปี พ.ศ. 2564 ตัวเองเกิดป่วย จึงจะเข้ารับบริการกับทางโรงพยาบาลประจำอำเภอ จึงนำบัตรประจำตัวประชาชนไปเสียบที่ตู้รับบริการ ปรากฏว่า มีข้อความขึ้นว่า สิทธิของคุณอยู่ที่โรงพยาบาลเรือนจำภูเก็ต สร้างความตกใจให้กับตัวเองเป็นอย่างมาก จึงได้เข้าไปปรึกษากับทางเจ้าหน้าที่งานทะเบียนอำเภอครบุรี

ซึ่งก็ได้รับคำแนะนำให้ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ได้แนะนำไปปรึกษากับทางกรมราชทัณฑ์ ตัวเองจึงได้ติดต่อไปเพื่อให้ช่วยเช็ก ซึ่งก็ปรากฏว่า ชื่อนามสกุลของตัวเอง เป็นผู้ต้องขังอยู่ในเรือนจำจังหวัดภูเก็ตจริง ต้องโทษในคดีค้ายาเสพติด ทั้งที่ตัวเองไม่เคยเกี่ยวข้องหรือมีคดีความต่าง ๆ เลยแม้แต่คดีเดียว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ก็บอกว่าจะดำเนินการตรวจสอบให้และจะแจ้งกลับมาให้ทราบ

ในห้วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 ตนเองได้ติดต่อทวงถามไปยังกรมราชทัณฑ์อยู่โดยตลอด แต่ก็ได้รับคำตอบเช่นเดิม คือ ให้รอ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านไปนั้น ตัวเองไม่สามารถใช้สิทธิตามกฎหมายได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการรักษาพยาบาล ทุกครั้งที่ป่วยก็ไม่สามารถเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลได้ ทำได้เพียงแค่เสียเงินไปรักษาตามคลินิกเอกชน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า “บัตรคนจน” ก็ถูกยกเลิก จะทำอะไรที่ต้องใช้เอกสารหลักฐานทางราชการทุกอย่าง รวมถึงสมัครงาน ก็ไม่สามารถทำได้ ทุกวันนี้อาศัยเช่าที่ เพื่อทำไร่มันสำปะหลัง และรับจ้างทั่วไป เลี้ยงครอบครัวที่อยู่รวมกันถึง 8 ชีวิต คือ พ่อ อายุ 71 ปี แม่ อายุ 70 ปี ภรรยา และลูกชายคนโต วัย 8 ขวบ ลูกสาวคนรอง 7 ขวบ ลูกสาวคนเล็ก วัย 1 ขวบ 3 เดือน และหลานชายวัย 11 ปีอีก 1 คน ด้วยความยากลำบาก แม้ว่าจะมีฝีมือทางช่าง แต่ก็ไม่สามารถที่จะไปสมัครงานที่มีรายได้ดีกว่านี้ได้

ที่สำคัญเบื้องต้นตนเองรู้จากคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ทางโทรศัพท์เพียงว่า คนที่ถูกขังอยู่ในคุกในชื่อของตัวเอง มีความผิดเกี่ยวกับคดียาเสพติด ซึ่งก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นโทษร้ายแรงขนาดไหน หากคนในเรือนจำแหกคุกออกมา แล้วตนเองที่มีชื่อ นามสกุล และเลขบัตรประชาชนที่ตรงกัน จะต้องตกอยู่ในสภาพใด และจะต้องกลายเป็นผู้ต้องหาไปอีกหรือไม่

โพสต์โดย : นายน้อย นายน้อย เมื่อ 19 ก.ย. 2567 17:40:15 น. อ่าน 10 ตอบ 0

facebook