หลายครั้งหลายหนที่เราเปลี่ยนแปลงตัวเองไม่สำเร็จ ก็เพราะเราขาดเครื่อง
เตือนใจที่มีประสิทธิภาพมากพอค่ะ เพราะส่วนใหญ่แล้วเราจะใช้วิธีบังคับตัวเองให้เปลี่ยนพฤติกรรม ไม่ว่าจะเป็น เธอต้องคุมอาหารสิถึงจะผอม กินคลีนให้หนัก วิ่งให้มาก เข้าฟิตเนสให้บ่อย เพื่อความผอมของเรา แล้วผลก็คือ ไปจบที่ร้าน
ชาบูและ
หมูกระทะ นั่นก็เพราะเราเองมักจะใจดีกับตัวเองค่ะ เช่น วันนี้วิ่งเยอะแล้ว
หมูกระทะหน่อยนึงไม่เป็นไรน่า
กินคลีนมาทั้งสัปดาห์
ชาไข่มุกหน่อยไม่เป็นไรน่า นี่แหละค่ะการเปลี่ยนแปลงตัวเองที่ไม่สำเร็จ เพราะฉะนั้น
นักจิตวิทยาเลยแนะนำให้หาเครื่องเตือนใจที่มีประสิทธิภาพ คือ
เตือนจริง ต้องทำจริง ไม่ทำโดนลงโทษ เครื่องเตือนใจนั้นคือคนที่มีอิทธิพลกับชีวิตเรานั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ คุณแม่ ที่ถ้าเราไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเอง ท่านก็จะลงโทษด้วยการบ่น บ่นเช้า บ่นเย็น บ่นทุกครั้งที่เจอหน้า จนเราต้อง
เปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อให้ท่านเลิกบ่น หรือแฟนที่เมื่อเราตกลงกับแฟนว่าเราจะเปลี่ยนแปลงตัวเองนะ หากเราทำได้แฟนก็จะให้รางวัลเป็นคำชม เป็นของขวัญ เป็นอะไรก็ตามที่เราชื่นใจ แต่ถ้าไม่ทำก็จะงอนจนเรายอม
เปลี่ยนพฤติกรรมในที่สุด ซึ่งการให้บุคคลสำคัญในชีวิตเป็นคนคอยเตือนให้เราทำ
ตามเป้าหมายของเรามีข้อดีมาก ๆ ตรงที่เขาจะมุ่งมั่นกับการเตือน และคอยจับตามองผลของการเปลี่ยนแปลงของเราอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นแล้วเราไม่ต้องห่วงเลยค่ะว่าเราจะ
เปลี่ยนแปลงตัวเองไม่สำเร็จ
หาก
เป้าหมายการ
เปลี่ยนแปลงตัวเองที่เป็นไปได้ยากและท้าทายเมื่อเราสามารถเปลี่ยน
พฤติกรรมตัวเองสำเร็จ ก็เป็นตัวช่วยที่ดีให้เรามีไฟในการเปลี่ยนแปลงตัวเองนะคะ ส่วนรางวัลนั้นก็ไม่จำเป็นต้องแพง ต้องหายาก แต่ต้องเป็นของที่เรารู้สึกว่าคุ้มค่าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้ได้มา ซึ่งการตั้งรางวัลนี้ต้องเป็นรางวัลที่จับต้องได้ เป็นไปได้นะคะ เช่น ถ้าฉันน้ำหนักเหลือ 45 กิโลฯ ฉันจะได้เป็นแฟนกับพี่คนที่แอบชอบ แบบนี้ไม่ดี ไม่เอาค่ะ เพราะไม่มีอะไรรับประกันเลยว่าเราผอมแล้วพี่คนที่เราแอบชอบจะมาชอบเรา แต่ต้องตั้ง
รางวัลที่สามารถเป็นไปได้ เช่น เก็บเงิน 1 ปี เพื่อไปเที่ยวญี่ปุ่น แบบนี้เป็นการให้
รางวัลที่เหมาะสมและตรงตัวสุด ๆ เลยค่ะ เพราะถ้าอยากไปญี่ปุ่นก็ต้องเก็บเงิน ไม่เก็บเงินก็ไม่ได้ไป แบบนี้เป็นต้น
ดังนั้น
นักจิตวิทยาเลยแนะนำว่า การ
เปลี่ยนพฤติกรรมที่ได้ผลนั้น หัวใจสำคัญคือ
การวางแผน และการ
ทำตามแผนแบบช้าแต่ชัวร์ ไม่มั่ว และมั่นคงค่ะ เช่น หากต้องการจะ
ลดน้ำหนัก เราต้อง
ตั้งเป้าไว้เลยว่าจะลดให้เหลือเท่าไหร่ ภายในระเวลาเท่าใด และมีแผนที่จะลดอย่างไร แล้วค่อยทำตามแผนไปทีละขั้น ๆ รับรองเลยค่ะว่าเราจะสามารถ
เปลี่ยนตัวเองได้ตามที่เราต้องการแน่นอน เพราะร่างกายของเราจะค่อย ๆ ปรับให้ชินกับการเปลี่ยนพฤติกรรม และความรู้สึก จิตใจของเราก็ไม่ได้รู้สึกว่าโดนบังคับ เพราะทุกอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพราะฉะนั้นแล้ว ขอให้ท่องไว้นะคะ “
ช้าแต่ชัวร์”
แรงต้านที่สำคัญที่ทำให้เรา
เปลี่ยนพฤติกรรมไม่ได้ ก็คือ เสียงเม้ามอยของคนรอบข้างค่ะ ทั้ง “พูดแบบนี้ทุกปี ทำจริงไม่ได้หรอก” “เธอเป็นคนไม่จริง ทำอะไรก็ไม่สำเร็จหรอก” หรือ “ทำตามเทรนด์ ตามแฟชั่นน่ะสิ เดี๋ยวก็เลิก” บางครั้งคนพูดก็ไม่ได้ใส่ใจตอนที่เขาพูดกับเรา แต่เราเองนี่แหละค่ะที่ไปใส่ใจแล้วเสียความรู้สึกกับคำพูดเหล่านั้น จนล้มเลิกความตั้งใจที่จะเปลี่ยนตัวเองไป ดังนั้นแล้ว การ
ลดแรงต้านโดยการ
โฟกัสให้ถูกจุด ก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะทำให้เราไปถึงเป้าหมายค่ะ
ใส่ใจในเรื่องที่ควรใส่ใจ และ
มุ่งมั่น ตั้งใจในสิ่งที่ทำจะดีกับเรามากเยอะเลยค่ะ
วิธี
เพิ่มแรงจูงใจสามารถทำได้หลายแบบค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งเป้าหมายระยะสั้น เพื่อให้เราสามารถทำสำเร็จได้ง่าย แล้วมีกำลังใจที่จะทำในสิ่งที่ใหญ่กว่า ยากกว่า หรือการให้รางวัลตัวเองเมื่องานสำเร็จ การหา Idol หรือ Role Model ที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น การวาดภาพของคนที่อยากจะเป็นไว้แล้วไปให้ถึง รวมถึงการ
หาโอกาสเรียนรู้โลก ออกไป
ท่องเที่ยว หรือไป
เรียนรู้สิ่งใหม่ ก็สามารถเติมไฟให้เราสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมของเราได้ค่ะ