www.12kick.com
Menu

7 วิธีเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ง่ายๆจากนักจิตวิทยา


หลายครั้งหลายหนที่เราเปลี่ยนแปลงตัวเองไม่สำเร็จ ก็เพราะเราขาดเครื่องเตือนใจที่มีประสิทธิภาพมากพอค่ะ เพราะส่วนใหญ่แล้วเราจะใช้วิธีบังคับตัวเองให้เปลี่ยนพฤติกรรม ไม่ว่าจะเป็น เธอต้องคุมอาหารสิถึงจะผอม กินคลีนให้หนัก วิ่งให้มาก เข้าฟิตเนสให้บ่อย เพื่อความผอมของเรา  แล้วผลก็คือ ไปจบที่ร้านชาบูและหมูกระทะ นั่นก็เพราะเราเองมักจะใจดีกับตัวเองค่ะ เช่น วันนี้วิ่งเยอะแล้วหมูกระทะหน่อยนึงไม่เป็นไรน่า กินคลีนมาทั้งสัปดาห์ ชาไข่มุกหน่อยไม่เป็นไรน่า นี่แหละค่ะการเปลี่ยนแปลงตัวเองที่ไม่สำเร็จ เพราะฉะนั้น นักจิตวิทยาเลยแนะนำให้หาเครื่องเตือนใจที่มีประสิทธิภาพ คือ เตือนจริง ต้องทำจริง ไม่ทำโดนลงโทษ เครื่องเตือนใจนั้นคือคนที่มีอิทธิพลกับชีวิตเรานั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ คุณแม่ ที่ถ้าเราไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเอง ท่านก็จะลงโทษด้วยการบ่น บ่นเช้า บ่นเย็น บ่นทุกครั้งที่เจอหน้า จนเราต้อง เปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อให้ท่านเลิกบ่น หรือแฟนที่เมื่อเราตกลงกับแฟนว่าเราจะเปลี่ยนแปลงตัวเองนะ หากเราทำได้แฟนก็จะให้รางวัลเป็นคำชม เป็นของขวัญ เป็นอะไรก็ตามที่เราชื่นใจ แต่ถ้าไม่ทำก็จะงอนจนเรายอมเปลี่ยนพฤติกรรมในที่สุด ซึ่งการให้บุคคลสำคัญในชีวิตเป็นคนคอยเตือนให้เราทำตามเป้าหมายของเรามีข้อดีมาก ๆ ตรงที่เขาจะมุ่งมั่นกับการเตือน และคอยจับตามองผลของการเปลี่ยนแปลงของเราอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นแล้วเราไม่ต้องห่วงเลยค่ะว่าเราจะเปลี่ยนแปลงตัวเองไม่สำเร็จ


อีกเหตุผลที่เราเปลี่ยนแปลงตัวเองไม่สำเร็จ ก็เพราะมัวแต่รอฤกษ์ รอยาม เช่น ปีใหม่จะเริ่มเก็บเงินแล้วนะ เดือนหน้าจะลดน้ำหนักจริงจังซะที แล้วก็จะเกิดปรากฏการณ์สากล ที่เรียกว่า “พรุ่งนี้เริ่มใหม่” แล้วพรุ่งนี้ก็ไม่มาถึงสักที นักจิตวิทยาเลยแนะนำว่า “คิดจะทำก็ทำเลยจ้า” นอกจากนั้นแล้วการเปลี่ยนแปลงตัวเองที่ดีต้องมีแบบแผนนะคะ ถึงจะสำเร็จได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ค่ะ 


นักจิตวิทยาบอกไว้ว่า การเปลี่ยนตัวบุคคลเป็นเรื่องยาก แต่การเปลี่ยนสภาพแวดล้อมง่ายกว่าเยอะ ถ้าหากว่าสภาพแวดล้อมรอบตัวเราเป็นอุปสรรคในการเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น เพราะฉะนั้นวิธีแก้ก็คือ เปลี่ยนสภาพแวดล้อมเสียเลย หลายท่านอาจเกิดความสงสัยว่า สภาพแวดล้อมจะไปเป็นปัญหาในการเปลี่ยนแปลงตัวเองยังไง  อธิบายง่าย ๆ เลยค่ะ เช่น ตอนที่เราพยายามจะลดน้ำหนัก แต่ในตู้เย็นก็ยังเต็มไปด้วยช๊อกโกแลต ขนมเค้ก พิซซ่า โดนัท โต๊ะ ตู้ เตียงในห้องก็ยังเต็มไปด้วยขนมที่พร้อมแกะกินตลอดเวลา แบบนี้แล้วจะลดน้ำหนักคงยาก แต่ถ้าหากเราเปลี่ยนใหม่ให้ตู้เย็นเต็มไปด้วยผัก ปลา และอาหารเพื่อสุขภาพสิ่งเหล่านี้ก็จะเอื้อให้เราลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้นมากเลยค่ะ  


หากเป้าหมายการเปลี่ยนแปลงตัวเองที่เป็นไปได้ยากและท้าทายเมื่อเราสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองสำเร็จ ก็เป็นตัวช่วยที่ดีให้เรามีไฟในการเปลี่ยนแปลงตัวเองนะคะ ส่วนรางวัลนั้นก็ไม่จำเป็นต้องแพง ต้องหายาก แต่ต้องเป็นของที่เรารู้สึกว่าคุ้มค่าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้ได้มา ซึ่งการตั้งรางวัลนี้ต้องเป็นรางวัลที่จับต้องได้ เป็นไปได้นะคะ เช่น ถ้าฉันน้ำหนักเหลือ 45 กิโลฯ ฉันจะได้เป็นแฟนกับพี่คนที่แอบชอบ แบบนี้ไม่ดี ไม่เอาค่ะ เพราะไม่มีอะไรรับประกันเลยว่าเราผอมแล้วพี่คนที่เราแอบชอบจะมาชอบเรา แต่ต้องตั้งรางวัลที่สามารถเป็นไปได้ เช่น เก็บเงิน 1 ปี เพื่อไปเที่ยวญี่ปุ่น แบบนี้เป็นการให้รางวัลที่เหมาะสมและตรงตัวสุด ๆ เลยค่ะ เพราะถ้าอยากไปญี่ปุ่นก็ต้องเก็บเงิน ไม่เก็บเงินก็ไม่ได้ไป แบบนี้เป็นต้น


บ่อยครั้งที่การเปลี่ยนแปลงตัวเองล้มเหลว เพราะเรา “รีบ” ที่จะเปลี่ยนตัวเองเกินไป ไม่ว่าจะลดน้ำหนักแบบหักโหม ออกกำลังกายอย่างหนัก งดข้าว งดของหวาน งดทุกอย่างที่ชอบ หรือตั้งเป้าเก็บเงินให้ได้เยอะ ๆ ทั้ง ๆ ที่รายรับมีน้อย เลยใช้วิธีอดข้าว ใช้เงินแบบขี้เหนียวสุด ๆ ซึ่งวิธีเหล่านี้จะทำให้เรา “เลิกที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง” เพราะเหนื่อยกาย เหนื่อยใจ และรู้สึกว่าไม่มีความสุขที่จะเปลี่ยนตัวเอง 


ดังนั้น นักจิตวิทยาเลยแนะนำว่า การเปลี่ยนพฤติกรรมที่ได้ผลนั้น หัวใจสำคัญคือการวางแผน และการทำตามแผนแบบช้าแต่ชัวร์ ไม่มั่ว และมั่นคงค่ะ เช่น หากต้องการจะลดน้ำหนัก เราต้องตั้งเป้าไว้เลยว่าจะลดให้เหลือเท่าไหร่ ภายในระเวลาเท่าใด และมีแผนที่จะลดอย่างไร แล้วค่อยทำตามแผนไปทีละขั้น ๆ รับรองเลยค่ะว่าเราจะสามารถเปลี่ยนตัวเองได้ตามที่เราต้องการแน่นอน เพราะร่างกายของเราจะค่อย ๆ ปรับให้ชินกับการเปลี่ยนพฤติกรรม และความรู้สึก จิตใจของเราก็ไม่ได้รู้สึกว่าโดนบังคับ เพราะทุกอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพราะฉะนั้นแล้ว ขอให้ท่องไว้นะคะ “ช้าแต่ชัวร์


แรงต้านที่สำคัญที่ทำให้เราเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ได้ ก็คือ เสียงเม้ามอยของคนรอบข้างค่ะ ทั้ง “พูดแบบนี้ทุกปี ทำจริงไม่ได้หรอก” “เธอเป็นคนไม่จริง ทำอะไรก็ไม่สำเร็จหรอก” หรือ “ทำตามเทรนด์ ตามแฟชั่นน่ะสิ เดี๋ยวก็เลิก” บางครั้งคนพูดก็ไม่ได้ใส่ใจตอนที่เขาพูดกับเรา แต่เราเองนี่แหละค่ะที่ไปใส่ใจแล้วเสียความรู้สึกกับคำพูดเหล่านั้น จนล้มเลิกความตั้งใจที่จะเปลี่ยนตัวเองไป ดังนั้นแล้ว การลดแรงต้านโดยการโฟกัสให้ถูกจุด ก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะทำให้เราไปถึงเป้าหมายค่ะ ใส่ใจในเรื่องที่ควรใส่ใจ และมุ่งมั่น ตั้งใจในสิ่งที่ทำจะดีกับเรามากเยอะเลยค่ะ


วิธีเพิ่มแรงจูงใจสามารถทำได้หลายแบบค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งเป้าหมายระยะสั้น เพื่อให้เราสามารถทำสำเร็จได้ง่าย แล้วมีกำลังใจที่จะทำในสิ่งที่ใหญ่กว่า ยากกว่า หรือการให้รางวัลตัวเองเมื่องานสำเร็จ การหา Idol หรือ Role Model ที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น การวาดภาพของคนที่อยากจะเป็นไว้แล้วไปให้ถึง รวมถึงการหาโอกาสเรียนรู้โลก ออกไปท่องเที่ยว หรือไปเรียนรู้สิ่งใหม่ ก็สามารถเติมไฟให้เราสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมของเราได้ค่ะ

โพสต์โดย : POPCORN POPCORN เมื่อ 25 ส.ค. 2567 12:03:01 น. อ่าน 77 ตอบ 0

facebook