www.12kick.com
Menu

"เด็กเทคนิคดุ" ปี 2 ทำร้ายปี 1 เตะกลางสี่แยกไฟแดง อ้างปกป้องรุ่นน้อง

"เด็กเทคนิคดุ" ปี 2 ทำร้ายปี 1 เตะกลางสี่แยกไฟแดง อ้างปกป้องรุ่นน้อง

เมื่อช่วงเย็นเมื่อวันที่ 31 ก.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมามีการแชร์คลิปเด็กนักเรียนแต่งกายคล้ายชุดลูกเสือ 2 คน ขับรถ จยย.จอดติดไฟแดงบริเวณสี่แยก รพ.วชิระภูเก็ต ถ.เยาวราช ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต จู่ๆ มีรถ จยย.อีกคัน มีชายวัยรุ่น 2 คน ขับเข้ามาจอดใกล้ๆ โดย 1 ใน 2 แต่งกายคล้ายนักเรียนเทคนิค ลงจากรถเข้ามาทำร้ายนักเรียนที่นั่งซ้อนท้ายจนตกจากรถ แล้วเดินเข้าไปเตะซ้ำต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก ที่กำลังจอดรถติดไฟแดง โดยมีพลเมืองดีถ่ายคลิปเหตุการณ์เอาไว้ได้ แล้วนำมาโพสต์ลงโซเชียลจนถูกแชร์ออกไปจำนวนมาก พ่อแม่ของเด็กนักเรียนที่ถูกทำร้ายเห็นแล้วทนไม่ได้จึงเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองภูเก็ต

จากการสอบถาม นายเอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี นักเรียน ปวช.ปี 1 ที่ถูกรุ่นพี่ ปวช.ปี 2 ทำร้าย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนไปดูบอลกับเพื่อนที่ ม.ราชภัฏภูเก็ต แต่เกิดไม่สบายจึงขับรถ จยย.กลับมาวิทยาลัยเพื่อจะมาลาอาจารย์ ขณะรถติดไฟแดง จู่ๆ รุ่นพี่ทั้ง 2 ก็ขับรถ จยย.มาจอดด้านหน้า แล้วคุยอะไรกันไม่รู้ จนไฟจะเริ่มเขียว 1 ใน 2 ก็วิ่งมาชกตนที่นั่งซ้อนท้ายรถ จยย.อยู่จนตกจากรถ แล้วรุ่นพี่คนดังกล่าวก็ตามมาเตะซ้ำ โดยมีการกล่าวหาว่าตนไปข่มขู่รุ่นน้องของเขา ทั้งๆ ที่ตนไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย เพราะตนเป็นเด็กนอกเมือง และเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ภูเก็ต

ด้าน นายบี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี นักเรียน ปวช.ปี 2 รุ่นพี่ที่ก่อเหตุ เล่าว่า ตนยอมรับว่าไม่เคยมีปัญหากับรุ่นน้องที่ถูกทำร้ายมาก่อน ยอมรับว่าอารมณ์ร้อน และถ้าย้อนเวลากลับไปได้อยากจะขอโทษ ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นมาจากการปกป้องรุ่นน้อง ซึ่งรุ่นน้องของตนมีเรื่องกับ นายเอ จากนั้นจึงทักมาบอกให้ตนไปช่วย แต่ไปแล้วไม่เจอ จนมาเจอระหว่างทาง โดยขับรถ จยย.ตีคู่กันมา แล้วมาเกี่ยวรถของตน เมื่อจอดติดไฟแดง ตนจึงลงไปชกทันที ยืนยันจากนี้จะไม่มีเรื่องแบบนี้อีก ต่างคนต่างเรียน

ขณะที่ พ.ต.อ.ประเทือง ผลมานะ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต กล่าวว่า ทุกๆ เคสที่มีนักเรียนหรือเยาวชนก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันแบบนี้ ผู้กำกับจะต้องมานั่งให้โอวาทแบบนี้ และต้องเรียกผู้ปกครองมาเพื่อเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยตามกฎหมาย เรื่องที่เราบาดหมางกันอยู่ต้องมาปรับความเข้าใจกัน เราถึงจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อไปได้ ถ้าไม่มีคนกลาง ถ้าไม่มีผู้กำกับมาพูดคุย เรื่องบาดหมางก็ยังคงเกิดขึ้น ไม่ชอบหน้ากัน วันนี้มีอะไรพูดจาต่อหน้ากัน ต่อหน้าผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่าย และต่อหน้าผู้กำกับ และจากนี้ไปจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก กฎหมายได้กำหนด พ.ร.บ.ไกล่เกลี่ยเอาไว้ ซึ่งถ้าหากเราเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยได้สำเร็จ ทุกคนจะไม่ตกเป็นผู้ต้องหา จะไม่ถูกพิมพ์มือ อนาคตของพวกเราทั้ง 2 ฝ่ายยังคงไปต่อได้ แต่หากเข้าสู่กระบวนการแล้วยังไม่เชื่อฟัง ยังมีพฤติกรรมที่ยังไม่เชื่อกฎหมาย เราก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ถูกนำตัวส่งฟ้องศาล ทั้งนี้กระบวนการไกล่เกลี่ยในวันนี้ยังไม่สำเร็จ ซึ่งจะมีการกลับมาพูดคุยกันอีกครั้งในวันที่ 1 ส.ค. 67 เนื่องจากนักเรียนที่ถูกทำร้ายยังต้องการให้มีการดำเนินคดีตามกฎหมาย.

โพสต์โดย : นายน้อย นายน้อย เมื่อ 31 ก.ค. 2567 22:57:47 น. อ่าน 13 ตอบ 0

facebook