เมื่อเร็วๆ นี้ มีข่าวลือในแวดวงสื่อมวลชนว่า มีความเป็นไปได้ที่ Mercedes-AMG จะกลับมาใช้เครื่องยนต์ V8 ใน C63 อีกครั้ง แต่ Schiebe ก็ปฏิเสธข่าวดังกล่าวไปเมื่อปีที่ผ่านมา เครื่องยนต์แปดกระบอกสูบ ไม่ได้กลับมาประจำการใน C63 หรือ E63 ซึ่งคาดกันว่า AMG E63 จะประจำการด้วยเครื่องยนต์ 6 สูบเรียง เทอร์โบ พร้อมระบบปลั๊กอินไฮบริด
เครื่องยนต์ใน AMG CLE63 ก็หันไปใช้เครื่องยนต์หกสูบเรียง ความจุ 3.0 ลิตร เทอร์โบ พร้อมระบบ Mild Hybrid 48 โวลต์ Schiebe ระบุว่า AMG มุ่งไปสู่การลดความจุเครื่องยนต์ และผสานระบบไฟฟ้าให้ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์สันดาปภายในได้อย่างสมบูรณ์แบบ เนื่องจากเป็น "ความก้าวหน้าอย่างมากในการลดมลพิษและคงพลังงานในรูปของแรงบิดเอาไว้ "Mercedes-AMG เชื่อมั่นในสมรรถนะแบบไฮบริด อย่าลืมว่า Mercedes-AMG S63 รุ่นใหญ่ก็ยังใช้ระบบขับเคลื่อน PHEV เหมือนกับ GT Coupe, GT 4-Door Coupe และ SL ที่ใช้เครื่องยนต์ตัวเล็กพ่วงระบบไฟฟ้าที่ทำให้สะอาดขึ้น กินเชื้อเพลิงน้อยลง และมีกำลังแทบจะไม่แตกต่างไปจากเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ที่ AMG เคยใช้
เครื่องยนต์รหัส M139 ของ Mercedes-AMG A45 เป็นเครื่องยนต์รถโปรดักชันแบบสี่สูบเรียง ความจุ 2.0 ลิตร ที่ถือว่า ทรงพลังที่สุดในโลก รหัส M139 ประจำการอยู่ในรถ AMG A45 / CLA45 และ GLA 45 กำลัง 382 แรงม้า รวมถึง GT43 และ AMG SL43 เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร e-turbo ได้ เข้ามาแทนที่เครื่อง AMG V-8 วิศวกรของ AMG สามารถบีบเค้นพลังงาน จนเครื่อง M139 มีพลังมากถึง 442 แรงม้า ประจำการอยู่ใน C63 พร้อมระบบปลั๊กอินไฮบริด สำหรับรถเปิดหลังคา Mercedes-AMG SL43 ก็ยังยกเอาเครื่องยนต์รุ่นดังกล่าวมาใช้งาน เพื่อเปิดทางเลือกให้กับลูกค้าที่กำลังเล็ง AMG SL ที่ไม่ชอบความหนักและอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวมถึงมลพิษของเครื่อง V8
386-442 แรงม้า แทบจะไม่น่าเชื่อว่าจะมาจากเครื่องยนต์สี่สูบตัวเล็กนิดเดียว แต่ AMG จัดการมันได้ด้วยการใช้เทอร์โบชาร์จเจอร์ไฟฟ้า หรือ e-Turbo ในหลักการทำงานของระบบอัดอากาศที่ตอบสนองโดยแทบจะปราศจากอาการรอรอบ ในกรณีนี้ AMG ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าจิ๋ว ขนาด 6kW ที่หมุนแกนเทอร์ไบน์ที่เชื่อมต่อกังหันและคอมเพรสเซอร์ มอเตอร์ตัวแสบนี้สามารถหมุนในรอบสูงถึง 156,000 รอบต่อนาที ช่วยขจัดอาการเทอร์โบแล็ก หรืออาการรอรอบของเครื่องยนต์เทอร์โบในช่วงออกตัวจากรอบต่ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากมอเตอร์ไฟฟ้าสามารถหมุนคอมเพรสเซอร์เพื่อบังคับให้อากาศเข้าไปในห้องเผาไหม้มากขึ้น และทำงานได้เร็วกว่ากังหันเทอร์ไบน์ที่ขับเคลื่อนด้วยก๊าซไอเสียด้วยตัวมันเอง การตอบสนองชั่วขณะอย่างฉับพลันทันที ยังได้รับการปรับปรุงการทำงานของเครื่องยนต์ใหม่ทั้งหมด เนื่องจากเมื่อยกคันเร่ง มอเตอร์ไฟฟ้าจะทำให้เทอร์โบหมุนต่อไป แม้ว่าจะมีอากาศไหลออกจากไอเสียน้อยลงก็ตาม วิศวกรของ AMG กล่าวว่า ระบบใหม่นี้ช่วยให้สามารถควบคุมระดับบูสต์ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น.
โพสต์โดย : นายน้อย เมื่อ 26 ก.ค. 2567 12:36:35 น. อ่าน 14 ตอบ 0
ดูฟุตบอลออนไลน์