ความรักทำให้คนเรากระชุ่มกระชวย และความรักก็สามารถเกิดได้กับคนทุกช่วงวัย บอกเลยว่าเรื่องของหัวใจไม่มีอะไรมากั้นจริง ๆ ค่ะ ซึ่งความรักเองก็มีหลายรูปแบบ จะรักแรกพบ รักวัยเรียน รักระยะไกล ฯลฯ แต่เชื่อว่าเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นและผ่านประสบการณ์มามากพอ หลายคนจะเริ่มมองหา “ความรักแบบผู้ใหญ่” สักที ที่จะมาพร้อมความจริงจัง ความรับผิดชอบ ไม่ใช่แค่หมาหยอกไก่ จีบกันเล่น ๆ แล้ว ความรักที่ว่านี้จะเป็นอย่างไร เราไปดูกันค่ะ
สิ่งที่ยากจะเลี่ยงในความสัมพันธ์ คือ ความไม่เข้าใจ ซึ่งจะนำมาสู่การทะเลาะกัน มันเป็นเรื่องธรรมดามากเลยค่ะ ที่คนสองคนจะมีปากเสียงกันบ้าง เพราะเราต่างจิตต่างใจ คงไม่มีอะไรที่จะคิดตรงกันไปซะทุกอย่าง พอมาอยู่ด้วยกัน โอกาสที่จะกระทบกระทั่งกันมันก็ย่อมมี ความรักแบบผู้ใหญ่นั้น มักทะเลาะกันในเรื่องที่เป็นปัญหาจริง ๆ เท่านั้น แล้วต้องไม่แสดงท่าทางโมโหเล่นใหญ่ ตะโกนใส่กัน หรือพูดจาทำร้ายจิตใจกันด้วยนะ เพราะทั้งสองคนจะใช้วิธีหันหน้าเข้าหากันเพื่อปรึกษาว่าปัญหามันเกิดจากอะไร และจะแก้ไขอย่างไร
เมื่อไหร่ที่ก้าวเข้าสู่ความสัมพันธ์แบบผู้ใหญ่ เธอและคนรักก็มักจะนึกถึงคำว่า “เรา” มากกว่าแค่“ ฉัน” หรือ “เธอ” เช่น ซื้ออาหารเมนูที่เราสองคนชอบกิน หรือจองทริปเที่ยวในสถานที่ที่เราสองคนอยากไป เป็นต้น และมักปรึกษาหารือกันก่อนตัดสินใจทำเรื่องบางอย่างเสมอ ซึ่งนี่ก็เป็นการแสดงให้เห็นว่าเธอสองคนให้ความสำคัญและใส่ใจความรู้สึกของอีกฝ่ายด้วย
ปัญหาโลกแตกของหลาย ๆ คู่ คือ การเกี่ยงกันทำงานบ้าน หรือการที่ฝ่ายหนึ่งทำ แต่อีกฝ่ายไม่ทำ ทำให้รู้สึกถึงการเอาเปรียบ ซึ่งสามารถลามไปจนเลิกกันก็มีมาแล้วค่ะ ดังนั้น ความรักแบบผู้ใหญ่ทั้งสองคนจะแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบเท่า ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานบ้าน การทำอาหาร การออกไปซื้อของ หรือแม้แต่การทำงานหาเงิน เพราะชีวิตคู่จำเป็นต้องเคารพซึ่งกันและกัน รวมทั้งรับผิดชอบสิ่งต่าง ๆ ร่วมกันด้วย
เชื่อว่าไม่ว่าใครก็อยากจะเดินทางด้วยกันไปจนถึงจุดหมาย ไม่มีใครอยากจะคบเล่น ๆ ไปวัน ๆ หรอกค่ะ คู่รักที่คบกันในลักษณะของความสัมพันธ์แบบผู้ใหญ่ ต่างฝ่ายต่างไม่รู้สึกกลัวที่จะพูดคุยหรือปรึกษากันเกี่ยวกับเรื่องอนาคตของคนทั้งคู่ เช่น เรื่องการแต่งงาน เรื่องการซื้อบ้าน เรื่องการเก็บออมเงิน เป็นต้น เพราะทั้งสองคนมีความจริงจังในความสัมพันธ์ครั้งนี้มาก ๆ ที่สำคัญหลังจากวางแผนอนาคตร่วมกันแล้ว เธอและคนรักต่างคนก็ต่างช่วยกันทุ่มเทความพยายามเพื่อทำให้เป้าหมายที่วางไว้สำเร็จได้จริง ๆ ด้วย
ถึงจะเป็นแฟนกัน ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณและเขาจะต้องตัวติดกันตลอด 24 ชั่วโมงนะคะ ความรักแบบฉบับของผู้ใหญ่ ทั้งสองฝ่ายไม่จำเป็นจะต้องติดต่อหากันตลอดเวลา หากอีกฝ่ายติดธุระจนตอบไลน์ช้าหรือโทรหาแล้วไม่รับสาย ก็ต้องเข้าใจและไม่มีอาการงอนตุ๊บป่องใส่กันด้วยนะ เพราะความรักแบบคนที่โต ๆ กันแล้ว มักให้อิสระทั้งสองฝ่ายไปใช้เวลาส่วนตัวเพื่อทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ ซึ่งความสัมพันธ์แบบนี้ก็จะช่วยให้ทั้งคุณและคนรักไม่รู้สึกอึดอัด แล้วระยะห่างมันยังทำให้มีเวลาคิดถึงกันมากขึ้นด้วยนะ
หลายคนก็อาจเคยอยากทำกิจกรรมสนุกสนานเพื่อสร้างความตื่นเต้นให้กับชีวิตรัก และสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ไปพร้อมกันกับคนรัก แต่เมื่อมีความรักแบบผู้ใหญ่อาจไม่จำเป็นจะต้องชวนกันออกไปทำกิจกรรมที่ไหนไกล เพราะแค่คุณและคนรักได้ใช้เวลาว่างอยู่ด้วยกัน แค่มองเห็นอีกฝ่ายอยู่ในสายตาหรือนั่งข้างๆ กัน แล้วต่างคนต่างก็ทำกิจกรรมของตัวเองไป เพียงแค่นี้ก็ช่วยเติมเต็มความสุข ทำให้อบอุ่นหัวใจ และรู้สึกใกล้ชิดกันได้แบบไม่ต้องทำอะไรที่มันหวือหวาเลยสักนิดเดียว
เมื่อใดก็ตามที่เราได้เจอกับคนที่ลงล็อคกับเราพอดี จะไม่รู้สึกว่าอยากเปลี่ยนแปลงนิสัย พฤติกรรมหรือชีวิตของเขาแม้แต่เรื่องเดียว เพราะเธอรักเขาในแบบที่เขาเป็น ไม่ใช่ชายหนุ่มสุดเพอร์เฟกต์ที่วาดฝันเอาไว้ แล้วเธอก็สามารถยอมรับข้อเสียหรือเรื่องบางอย่างที่อาจไม่สมบูรณ์แบบของอีกฝ่ายได้ ซึ่งถ้าความรักนี้เป็นความสัมพันธ์แบบผู้ใหญ่ที่ทั้งสองฝ่ายรักและจริงใจต่อกัน ฝ่ายคนรักก็จะไม่ทำให้เธอรู้สึกว่าต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยเช่นกัน
สาว ๆ ลองเช็คความสัมพันธ์ที่มีตอนนี้ ว่าข้อไหนบ้างไหมที่ตรงกับคู่ของเรา แต่คำแนะนำข้างต้นนี้ไม่ได้หมายความจะผิดหรือถูกนะคะ เพราะแต่ละอย่างอยู่ที่การปรับใช้ของแต่ละคู่ด้วย เช่นคู่นี้ทำข้อนี้แล้ว แต่อีกคู่อาจจะไม่ดีก็ได้ ที่สำคัญทุกความสัมพันธ์ควรยืนบนพื้นของเหตุผล และใช้ความรู้สึกในการเทคแคร์หัวใจของกันและให้ดี ๆ
เมื่อ 19 พ.ย. 2566 16:44:33 น. อ่าน 74 ตอบ
1
