www.12kick.com
Menu

จะเข้เป็นเครื่องสายที่ดึงออกมาซึ่งมีสาย 3 สาย

จักฮี (จะเข้) เป็นเครื่องสายที่ดึงออกมาซึ่งมีสาย 3 สายและเฟร็ตไม้ 11 เฟรต พบในประเทศไทย เมียนมาร์ และกัมพูชา ชื่อนี้ได้มาจากคำภาษาไทยว่าจระเข้ จรคีเนื่องจากลำตัวของเครื่องดนตรีมีรูปร่างเหมือนจระเข้ และบางครั้งก็แกะสลักอย่างประณีตเพื่อเป็นตัวแทนของจระเข้ ตัวทำจากไม้ มักมาจากต้นขนุน แกะสลักเป็นชิ้นเดียวและมีฝาปิดแบนด้านล่างซึ่งมีรูเสียงและมีขาสั้นห้าขาในการเล่นจาคีผู้เล่นจะผูกปิ๊กขนาดใหญ่เข้ากับนิ้วชี้ขวาของตนอย่างแน่นหนา มือขวาวางอยู่บนตัวเครื่องดนตรี และมือจะโยกไปมาเหนือสายในลักษณะโค้ง สำหรับจะเข้ ข้อความบนไม้เท้าด้านบนหมายถึงสายฟิงเกอร์บอร์ดที่พันด้วยมือซ้าย ไม้เท้าด้านล่างเกี่ยวข้องกับชุดของสายเปิด ที่เรียกว่าสายดนตรีประกอบ เสียงเบส และสายคอนทราเบส ซึ่งเล่นด้วยมือขวา  และเป็นหัวข้อของปริญญาเอกของฉัน วิทยานิพนธ์ที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียริเวอร์ไซด์ เรื่องดนตรีสำหรับคนไม่กี่คน ชาตินิยมและพระราชอำนาจไทย เครื่องดนตรีเครื่องสายที่รู้จักกันในชื่อพิณ เครื่องดนตรีจะเข้ หรือมีกวงซึ่งเล่นโดยชาวมอญในพม่า มันทำจากไม้เคลือบเงาสีอ่อน เคลือบทองบางส่วน มีรูปร่างเหมือนจระเข้ที่มีหัวหงายขึ้น โดยมีสายหกสาย (ตอนนี้ขาดหายไป) จะขยายไปถึงหมุดปรับเสียงไม้สีเข้มที่ด้านใดด้านหนึ่งของ หาง มันนั่งบนอุ้งเท้าทองสี่อุ้งเท้า มันจะเล่นโดยการดึงสาย  ดึงสายทีละสายหรือดีดทั้งสามสาย ไม้จิ้มฟันมักทำจากไม้เนื้อแข็ง กระดูก งาช้าง หรือเซรามิก ตัวเครื่องดนตรีสามารถตกแต่งในรูปแบบที่ประณีตด้วยสีทอง หอยมุก ขอบไม้สีอ่อน กระดูก เรซินสีขาว หรือสีงาช้าง มีสายไหมหรือสายไนลอน 2 เส้น ปรับจูนเป็น Do และ Sol และสายโลหะ 1 เส้นปรับเป็น Do ต่ำกว่าระดับแปดเสียง และร้อยสายเหนือสะพานโค้งที่ให้เสียงฮัมของเครื่องดนตรี คล้ายกับสะพานจาวารีในเครื่องดนตรีอินเดียเช่น ซีตาร์ ตามเนื้อผ้า ผู้เล่นจะนั่งโดยพับขาไปอีกด้านหนึ่งบนพื้นด้านหลังเครื่องดนตรี แต่ในปัจจุบันเป็นเรื่องปกติที่เครื่องดนตรีจะต้องยกขึ้นเพื่อให้ผู้เล่นนั่งบนเก้าอี้ได้ จักฮีมักเล่นเป็นเครื่องดนตรีเดี่ยว แต่ยังพบได้ในวงดนตรีคลาสสิกด้วย เช่น เครื่องสาย(เครื่องสาย) และวงดนตรีโมโหรี เครื่องสายประกอบด้วยจักฮี 1 ตัว เสาด้วง 1 ตัว (ซออูไม้เนื้อแข็ง 2 สายมีหนังงูเหลือม) ซออู้ 1 ตัว (ซออู 2 สายตัวกะลามะพร้าวหุ้มหนังวัว) คลึง 1 ตัว (ขลุ่ยแนวตั้งไม้) ทูนรามัญณา (กลองชุด 2 กลอง) และชิง (ฉิ่ง) มีต้นกำเนิดในพระราชวังและมักใช้ในสถานบันเทิง โรงเรียน มหาวิทยาลัย ชุมชน เทศกาลวัด และงานศพ

โพสต์โดย : วัดจ๋า วัดจ๋า เมื่อ 20 ก.ย. 2566 15:52:44 น. อ่าน 60 ตอบ 0

facebook